พฤหัส. มี.ค. 27th, 2025

HEPA Filter คืออะไร?

HEPA Filter ย่อมาจาก High-Efficiency Particulate Air Filter เป็นแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดักจับฝุ่นละอองและอนุภาคขนาดเล็กในอากาศได้ถึง 0.3 ไมครอน และบางรุ่นสามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.0024 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าฝุ่น PM2.5 ถึง 1,000 เท่า

HEPA Filter ผลิตจากเส้นใยไฟเบอร์กลาสที่เรียงตัวซับซ้อน ทำให้สามารถดักจับฝุ่น ควันบุหรี่ ไรฝุ่น ละอองเกสร เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของ HEPA Filter และประสิทธิภาพการกรอง

HEPA Filter ถูกแบ่งเป็น 5 ระดับคุณภาพ ตามมาตรฐาน EU (EN1822) ซึ่งแตกต่างกันตามอัตราการดักจับฝุ่น ดังนี้

  • E10 กรองได้ 85%
  • E11 กรองได้ 95%
  • E12 กรองได้ 99.5%
  • H13 กรองได้ 99.95%
  • H14 กรองได้ 99.995% (สามารถกรองไวรัสและแบคทีเรียในอากาศได้ดีมาก)

หากต้องการกรองเชื้อโรคและไวรัส เช่น โควิด-19 ซึ่งมีขนาดเฉลี่ย 0.1 ไมครอน ควรเลือกใช้ HEPA H13 หรือ H14 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

หลักการทำงานของ HEPA Filter

HEPA Filter ทำหน้าที่กรองอากาศผ่าน 3 ชั้นหลัก ได้แก่

  1. ชั้น Pre-Filter – ดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ ขนสัตว์ และเศษสิ่งสกปรก เพื่อยืดอายุการใช้งานของชั้นกรอง HEPA
  2. ชั้น HEPA Filter – ดักจับฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ไวรัส เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้
  3. ชั้น Carbon Filter – กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และสารเคมี

ประโยชน์ของ HEPA Filter

HEPA Filter มีบทบาทสำคัญในการช่วยกรองอากาศให้บริสุทธิ์ ลดปริมาณฝุ่น และลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ เช่น

  • กรองฝุ่น PM2.5 และฝุ่นพิษในอากาศ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจ
  • กำจัดสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสร ไรฝุ่น และสะเก็ดผิวหนังสัตว์เลี้ยง
  • ลดไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ ลดโอกาสการแพร่กระจายของโรคติดต่อ
  • ลดปริมาณฝุ่นสะสมบนพื้น เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนอน

บ้านแบบไหนควรใช้ HEPA Filter

เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA Filter เหมาะกับทุกบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่

  • อยู่ในเขตเมืองที่มีมลพิษสูง หรือใกล้ถนนที่มีการจราจรหนาแน่น
  • มีผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หอบหืด หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • มีสัตว์เลี้ยงที่อาจก่อให้เกิดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
  • มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องการอากาศสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพ
  • มีคนสูบบุหรี่ในบ้าน ที่ต้องการกำจัดควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์

วิธีเลือก HEPA Filter ที่มีคุณภาพ

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA Filter ควรคำนึงถึง

  • เลือก HEPA H13 หรือ H14 เพื่อการกรองที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • พิจารณาขนาดห้อง เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับขนาดห้องของคุณ
  • ตรวจสอบอายุการใช้งานของแผ่นกรอง ควรเปลี่ยนทุก 1-2 ปี เพื่อรักษาประสิทธิภาพ
  • เลือกแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐาน ควรมีใบรับรองคุณภาพและผ่านการทดสอบรอยรั่วของแผ่นกรอง

วิธีดูแลรักษา HEPA Filter

HEPA Filter ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน

  • ทำความสะอาดเป็นประจำ โดยใช้แปรงปัดฝุ่นหรือเครื่องดูดฝุ่นเบาๆ
  • ห้ามล้างน้ำ เพราะเส้นใยไฟเบอร์กลาสอาจเสียหาย ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
  • เปลี่ยนแผ่นกรองตามรอบเวลา แนะนำให้เปลี่ยนทุก 1-2 ปี ตามการใช้งาน

สรุป

HEPA Filter เป็นแผ่นกรองอากาศที่ช่วยดักจับฝุ่นละออง PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ ไวรัส และแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดขึ้น เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้

การเลือก HEPA Filter ควรดูมาตรฐานการกรอง (ควรเลือก HEPA H13 หรือ H14) ตรวจสอบแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน และหมั่นดูแลรักษาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

หากต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของทุกคนในบ้าน ควรเลือกใช้ HEPA Filter ที่มีคุณภาพสูงและผ่านการรับรองมาตรฐาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า